บริษัทยานยนต์ต่างชาติในเวียดนามหันมาผลิตรถยนต์ภายในประเทศแทนการนําเข้า หลังจากได้เห็นท่าทีที่หนักแน่นของรัฐบาลเวียดนามท่ีต้องการให้เพิ่มการผลิตรถยนต์ภายในประเทศ และเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการนําเข้าโดยใช้กฤษฏีกาหมายเลข 116 ซึ่งตราออกมาใช้ตั้งแต่เดือนตุลาคม

ในรอบ 7 เดือนแรกของปี พ.ศ. 2561 เงินลงทุนทางตรงจากต่างชาติส่วนใหญ่ลงทุน ในการผลิตรถยนต์และอุตสาหกรรมสนับสนุน มีมูลค่าถึง 8.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับร้อยละ 46.4 ของเงินทุนทางตรงจากต่างชาติท่ิเพ่ิมขึ้นทั้งหมด ในจํานวนนี้ส่วนหนึ่งเป็นเงินลงทุนในธุรกิจซ่อมบํารุง ให้บริการยานยนต์จํานวน 1.06 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

บริษัทยานยนต์เปียงฮวาจากเกาหลีใต้ ได้รับใบอนุญาตตั้งโรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ มูลค่า 16.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเมืองไฮฟอง บริษัท AAPICO จากประเทศไทยร่วมหุ้นกับบริษัท Vin Fast ของเวียดนาม ตั้งโรงงานผลิต ตัวถังรถยนต์และเพลาสําหรับรถยนต์ของ Vin Fast ในเมืองไฮฟอง นอกจากนั้นกลุ่ม Vin Fast ยังก่อสร้างศูนย์อุตสาหกรรมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในเมืองไฮฟองอีกด้วย

 

บริษัทผู้ผลิตยานยนต์ของต่างชาติในเวียดนามหลายแห่งซึ่งเคยวางแผนจะนําเข้ารถยนต์ เมื่ออากรนำเข้ารถยนต์ถูกยกเลิกภายใต้ข้อตกลงการค้าเสรีของอาเซี่ยน ก็เปลี่ยนแผนธุรกิจหันมาขยายกําลังการผลิตรถยนต์

 

มีรายงานว่าโตโยต้าจะลงทุน 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มกําลังการผลิตในเวียดนาม จากปีละ 50,000 คันเป็น 90,000 คัน ภายในปี พ.ศ. 2566 และปรับปรุงศูนย์ทดสอบยานยนต์ตามข้อกําหนดในกฤษฏีกาหมายเลข 116 ฟอร์ดเวียดนามก็กําลังเตรียมขยายกําลังการผลิตเช่นกัน บริษัทได้รับอนุมัติผลการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมแล้ว และบริษัทจะเพิ่มกําลังการผลิตรถยนต์อีกประมาณ 50% เป็น 20,800 คันต่อปี โดยบริษัทจะลงทุนในโรงเชื่อมและประกอบตัวถัง โรงพ่นสีและศูนย์ทดสอบ

รถยนต์

 

มิตซูบิชิมอร์เตอร์กําลังมองหาสถานท่ีตั้งโรงงานแห่งท่ีสองในเวียดนาม โรงงานแห่งแรก ตั้งอยู่ที่บ่ินเยือง ขนาดและอัตราการเติบโตของตลาดยานยนต์เป็นปัจจัยสําคัญในการดึงดูดเงินลงทุนเพื่อผลิตรถยนต์ และอุตสาหกรรมสนับสนุน

 

บริษัทยานยนต์ต่างชาติในเวียดนามได้รับแรงกดดันจากกฤษีกาหมายเลข 116 ซึ่งมีข้อกําหนดควบคุมการนําเข้าอย่างเข้มงวด ครอบคลุมถึงการทดสอบรถยนต์และการอนุมัติ ชนิดของรถยนต์นําเข้าจากต่างประเทศ ในครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2561 เวียดนามนําเข้ารถยนต์เพียง 12,380 คัน ลดลง 75.7%

 

แหล่งข่าว : Tue Lam วันที่ 7 สิงหาคม 2561